The Witcher 3 เกมมีความเข้าถึงง่ายมากขึ้น ,ชาว PC จะได้สัมผัสประสบการณ์กราฟฟิคที่ดีกว่าแพลตฟอร์มอื่น
อันนี้เป็นการให้สัมภาษณ์ของ John Mamais ,executive producer ของ CD Projekt ทีมพัฒนาเกม The Witcher 3 ที่ได้ให้สัมภาษณ์กับทาง Eurogamer ซึ่งเนื้อหาการให้สัมภาษณ์ค่อนข้างยาวผมเลยขอสรุปใจความสำคัญและสิ่งน่าสนใจให้อ่านกันครับ
สืบเนื่องจากเดโมความยาว 5 นาทีของเกม The Witcher 3 ในงาน E3 ที่ผ่านมาจะมีเสียงตอบรับในแง่ที่ว่าทำไมตัวเกมดูง่ายจังเพราะเราจะได้เห็น Geralt ฟันฉับศัตรูเอาชนะได้อย่างง่ายดาย เสียงตอบรับเหล่านี้ Mamais ก็ได้เข้าไปนั่งอ่านและรับรู้เรียบร้อยแล้ว เขาจึงออกมาชี้แจงว่าด้วยการที่เวลาของวีดิโอมีเพียงจำกัดเพียงแค่ 5 นาที ทีมงานจำเป็นต้องใส่อะไรที่ดูเป็นภาพรวมและรวบรัดเข้าไปให้ดู ซึ่งแท้จริงแล้วระบบการต่อสู้จะมีความซับซ้อนพอสมควร มันจะไม่ง่ายอย่างที่คิดหรือได้เห็นจากในวีดิโอเดโม ระบบการต่อสู้ของ The Witcher มันถือเป็นหนึ่งในจุดเด่น การได้เตรียมตัวก่อนต่อสู้ การคิดกลวิธีขณะต่อสู้ การโยกหลบ การใช้สกิล สิ่งเหล่านี้ในเกมภาคใหม่จะยังคงรักษาไว้เช่นเดิม
ทั้งนี้แม้จะเป็นภาคที่ 3 แต่สำหรับผู้เล่นหน้าใหม่ที่ประมาณว่าไม่เคยเล่นภาค 1 หรือ 2 มาก่อน เหตุนี้ทางทีมงานมีความตั้งใจว่าในภาคใหม่นี้จะใส่ความเป็นพื้นฐานที่ทำให้ผู้เล่นหน้าใหม่สามารถเข้าถึงได้ค่อยๆเรียนรู้ ต่างจากภาค 2 ที่จู่ๆก็เริ่มแบบลักษณะที่ว่าทำมาสำหรับผู้เล่นที่มีความชำนาญในภาคแรกอยู่แล้ว ตรงนี้ Mamais คิดด้วยซ้ำว่าเป็นสิ่งที่ผิดพลาดที่พวกเขาได้ทำแบบนี้ เพราะฉะนั้นในภาค 3 ผู้เล่นจะค่อยๆได้เรียนรู้ระบบต่อสู้พื้นฐานของเกมตั้งแต่เริ่มแรกครับ
จากวีดิโอเดโมในงาน E3 คือความละเอียดที่ 900p กับเฟรมเรตที่ 30 fps รันบนเครื่อง Xbox One ซึ่งเป็นความละเอียดขั้นต่ำที่ตัว Mamais บอกว่าไร้ซึ่งปัญหาหากรันที่ความละเอียดนี้ โอเคว่ามันดูสวยงามแต่เขานั้นก็ได้เพิ่มเติมมาอีกว่าในช่วงที่พัฒนาเกมอยู่นี้เกมจะดูสวยและดีขึ้นกว่านี้แน่นอนเมื่อมันเสร็จสมบูรณ์และพร้อมจำหน่ายใน กุมภาพันธ์ 2015
แน่นอนว่าความละเอียดที่ 900p ต้องมีแฟนเกมบางส่วนที่มีความรู้สึกว่าทำไมได้แค่นี้ อย่างที่ผมบอกไปว่า 900p คือรันได้ไม่มีปัญหา ในขณะนี้ทีมงานเองก็มีความต้องการที่จะทำให้เกมสามารถเล่นได้ที่ความละเอียด 1080p บนเครื่อง Xbox One นั่นถือเป็นหนึ่งในเป้าหมายของทีมพัฒนาและพวกเขาเองก็พยายามอย่างมากที่จะให้มันเป็นไปได้ด้วยการดึงประสิทธิภาพของฮาร์ดแวร์ออกมาสูงสุด แต่ถึงกระนั้น Microsoft และ Sony เองก็เคยออกมาพูดว่า 900p นี่แหละมันเป็นจุดที่ดีที่สุดแล้วและนั่นก็ไม่ได้มีความต่างอะไรมากหากเทียบกับ 1080p
จากบทให้สัมภาษณ์นี้ดูเหมือนว่าทาง CD Projekt จะประสบปัญหาบนเครื่อง PlayStation 4 มากกว่าในเรื่องการพัฒนา เพราะจริงแล้วเหล่าทีมนั้นเป็นนักพัฒนาเกม PC ซึ่งเครื่อง Xbox One ถือว่าได้อานิสงค์เล็กน้อยเพราะอยู่บนพื้นฐานการใช้ DirectX เหมือนกัน กระนั้นทีมงานก็หวังที่จะให้สามารถเล่นเกมบน PlayStation 4 ได้ที่ความละเอียด 1080p เช่นกัน
สำหรับชาว PC ถือว่าเป็นเรื่องดีเพราะ CD Projekt เองก็วางแผนใส่คุณภาพกราฟฟิคระดับ ultra เข้าไปให้เป็นทางเลือกด้วย แต่ทั้งนี้อย่าลืมว่าก็ต้องใช้ PC สเปคระดับสูงเช่นกัน ซึ่งตัว Mamais ก็บอกว่ามันคุ้มค่าอยู่แล้วล่ะ เพราะเราจะได้เห็นสิ่งที่เกมสามารถนำเสมอออกมาได้มากที่สุดไม่ว่าจะเป็น tessellation, physics ,post-processing ที่ดีขึ้นและ realistic fur ลูกเล่นขนสัตว์ของ Nvidia ที่สมจริงด้วยเช่นกัน หากนำไปเปรียบเทียบกับเกมในเวอร์ชันคอนโซลแล้วจะอยู่ในระดับการปรับแต่งที่ระดับ high ของเวอร์ชัน PC ครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น