วันศุกร์ที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2557

-[Review]-: Murdered: Soul Suspect ความกร่อยตั้งแต่เริ่มจนจบ

Murdered: Soul Suspect รีวิว
Murdered: Soul Suspect เกมใหม่จากค่ายเหลี่ยม Square Enix ที่นำเสนอเรื่องราวของนักสืบนามว่า Ronan O’Connor ซึ่งเข้าไปพัวพันกับคดีฆาตกรรมต่อเนื่องในเมือง Salem จนต้องเสียชีวิตแต่ติดตรงที่วิญญาณเรายังไม่ไปผุดไปเกิดจนกว่าเราจะหาได้ว่าคนร้ายที่ลงมือสังหารเรานั้นคือใคร …ทั้งหมดนี้คือการเกริ่นของเกมที่มีมาตั้งแต่เกมยังไม่ออกวางจำหน่าย สิ่งเหล่านี้ทำให้เหล่าเกมเมอร์บางส่วนรู้สึกสนใจในเกมนี้ไม่น้อยกับการเป็นวิญญาณพร้อมกับสืบคดีไปในตัวว่าจะนำเสนอออกมาได้แปลกใหม่แค่ไหน บทความนี้เป็นการเล่าบอกเล่าความรู้สึกหลังจากที่ผมได้เล่นเกมนี้เป็นเวลา 13 ชั่วโมงจนจบ ซึ่งเกมนี้หลักๆเลยคือเนื้อหาการดำเนินเรื่องจนถึงจุดคลายปมสุดท้าย เพราะฉะนั้นบทความนี้จะไม่มีการสปอยเนื้อหาใดๆเกี่ยวกับเนื้อเรื่องภายในเกมทั้งสิ้น แต่ผู้อ่านจะได้รับคำบ่น แพล่ม พล่าม จากผู้เขียนล้วนๆว่าเกมนี้มีจุดเด่นคืออะไร ส่วนไหนคือจุดบอด ฉะนั้นแล้วอย่ารอช้าเริ่มอ่านกันได้
ด้วยการที่ Ronan ตัวเอกที่เราได้เล่นเป็นตำรวจนักสืบ ฉะนั้นแล้วเรื่องเกมเพลย์หลักของเกมจะหนีไม่พ้นในด้านการสืบสวน การสนทนา การหาเบาะแสและสรุปคดี โดยพล็อตเรื่องของเกมจะวางคดีเป็นจุดๆในแผนที่แบบ open world เพื่อให้เราได้เข้าไปค้นหาความจริง ผมยกตัวอย่างเช่นเกิดเหตุการฆาตกรรม เมื่อเราไปถึงที่เกิดเหตุสิ่งที่เราต้องทำคือการหาเบาะแสหรือหลักฐานที่กระจัดกระจายตามจุดเกิดเหตุ เมื่อเรารวบรวมเสร็จเราจะสามารถสรุปคดีได้โดยเลือกเบาะแสหรือหลักฐานที่เกี่ยวโยงกับสมมติฐานที่เราตั้งไว้เช่นว่า ‘คนร้ายใช้อะไรสังหารเหยื่อ?’ จากนั้นก็จะมีรูปภาพหลายชิ้นมาให้เราได้เลือกว่าอะไรคือสิ่งที่เชื่อมโยงที่สุด เราสามารถเลือกสิ่งเหล่านี้ได้จนกว่าจะตอบถูกซึ่งไม่ต้องกังวลว่าจะส่งผลกระทบต่อเนื้อเรื่องเกม ส่วนการไขปริศนาภายในเกมต้องบอกว่าไม่ได้ยากเย็นอะไร โดยคดีในเนื้อหาหลักของเกมทั้งหมดจะเชื่อมโยงไปหาคดีฆาตกรรมของ Bell Killer ครับ
การที่เราสามารถตอบได้เรื่อยๆโดยไม่ส่งผลกระทบอะไรต่อเกมหรือเนื้อเรื่อง ระบบการสืบสวนหาเบาะแสสรุปคดีที่ดูไม่มีความซับซ้อนพอและไม่มีอะไรน่าตื่นเต้นให้ผู้เล่นได้ระทึกหรือรู้สึกตกใจระหว่างดำเนินเรื่อง สิ่งเหล่านี้ที่มันควรจะเป็นสิ่งที่ชูโรงและโดดเด่นที่สุดของเกม Murdered: Soul Suspect กับดูกร่อยขาดความท้าทายไปในที่สุดและเราจะได้เจอเกมเพลย์ลักษณะที่ผมได้บอกไปตลอดทั้งเกม รวมไปถึงบทสนทนาที่เราสามารถเลือกคำถามได้ว่าจะถามคำถามอะไรก่อน ตอนแรกผมคิดว่าจุดนี้น่าจะมีอะไรที่น่าสนใจแต่กลับพบว่ายังไงเสียเราก็ต้องเลือกถามจนครบทุกคำถามโดยจะถามข้อไหนก่อนก็ได้และไม่ส่งผลกระทบอะไร จนผมอดสงสัยไม่ได้ว่าทำไมไม่จำเป็นคัตซีนคุยกันตั้งแต่ต้นจนจบให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย
แม้ผมจะบ่นไปกับการสืบสวนคดีในเนื้อเรื่องหลักที่ขาดความน่าสนใจ ผู้เล่นที่หวังว่าภารกิจย่อยจะช่วยให้แก้เบื่อได้บ้างอาจต้องเบื่อหน่ายไปกว่าเดิม ภายในเมือง Salem จะมีเหล่า NPC วิญญาณที่ไม่ไปผุดไปเกิดเหมือนเราและรอให้เราเข้าไปให้ความช่วยเหลือเช่นว่า เช็คให้หน่อยว่าผัวขอป้าคนนี้คบชู้รึเปล่า ดิฉันตายได้ยังไง ใครเป็นคนขับรถ หากเราช่วยเหลือสำเร็จวิญญาณเรานั้นก็จะไปสู่สุขคติ ก็ถือว่าเป็นตัวช่วยแก้ขัดระหว่างการเดินเตร็ดเตร่ภายในเมืองที่เป็นรูปแบบ open world ได้ เพียงแต่ภารกิจย่อยเหล่านี้ไม่ได้มีมากพอและแน่นอนว่ารูปแบบการเล่นสืบหาเบาะแสก็ยังเหมือนเดิมที่หมดไปกับการเดินหาของมากกว่าการแก้ไขปริศนา ว่ากันง่ายๆผมหยิบให้ว่า Murdered: Soul Suspect เปรียบเสมือนเกมเดินหาสิ่งของแต่พิเศษหน่อยคือตรงที่ตัวเราเป็นวิญญาณการหาเบาะแสจึงสามารถล่วงรู้ภาพเหตุการณ์ในอดีตแบบสั้นๆได้ …อีกหนึ่งอย่างเกือบลืมพูดถึงและผมคิดว่าน่าสนใจเลยทีเดียวคือการที่เราสามารถเข้าไปสิง NPC และสามารถอ่านจิตใจคนที่เราเข้าไปสิงได้ ลูกเล่นนี้บางทีจะช่วยให้การไขคดีภายในเกม ซึ่งตรงนี้ผมคิดว่าทางทีมพัฒนาได้มองข้ามข้อดีจุดนี้และสร้างเหตุการณ์ลักษณะที่ผมว่าน้อยจนเกินไป
นอกจากผู้เล่นจะได้หาของเพื่อนำไปสรุปคดีแต่ภายในเมือง Salem ตามสถานที่ต่างๆกันจะมีของบางชิ้นที่เป็นลักษณะต้องเก็บสะสมจนครบและจะมีเรื่องราวให้อ่าน ซึ่งเรื่องราวที่ว่าก็ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับเนื้อหาหลัก หรือการหาของอย่างอื่นเช่นโน๊ตที่ได้เขียนโดยภรรยาของ Ronan ซึ่งบอกเรื่องราวความสัมพันธ์ความรักระหว่างเขาและเธอ ในตอนแรกผมพยายามที่จะอ่านจนครบแต่สุดท้ายก็ฝืนทนอ่านต่อไม่ได้เพราะมันไม่ได้เกี่ยวข้องกับรูปคดีที่เรากำลังตามเลยแม้แต่น้อย จุดนี้อาจจะสื่อให้เห็นถึงนิสัยส่วนตัวของ Ronan การได้ทราบภูมิหลังอะไรพวกนี้เพื่อให้ผู้เล่นได้รู้สึกเกิดคอนเน็คชั่นกับตัวละครที่ตัวเองเล่นมากขึ้น นอกจากนั้นแล้วก็จะมีเอกสารอีกมากมายให้เราได้อ่านอย่างเช่นข้อมูลเกี่ยวกับการล่าแม่มด บทความหนังสือพิมพ์ที่เขียนเกี่ยวกับฆาตกรต่อเนื่อง Bell Killer อะไรพวกนี้ แต่สิ่งเหล่านี้ที่ผมได้อธิบายมาผมต้องการจะบอกว่าตัวเกมขาดแรงดึงดูดให้ทำสิ่งยิบย่อยภายในเกม ขนาดเกมเพลย์เนื้อเรื่องหลักยังทำออกมาได้ดูกร่อยน่าเบื่อจะประสาอะไรกับพวกเนื้อเรื่องรองล่ะ จริงไหม?
หากเกมเพลย์จะมีแต่การสืบสวนก็ออกจะดูเข้าถึงยากกับเกมเมอร์รุ่นใหม่ไปบ้าง ตัวเกมก็เลยใส่ความเป็นแอ็คชั่นลอบเร้นเข้าไปเล็กน้อยกับศัตรูที่มีลักษณะเป็นผีที่จ้องจะกระซวกวิญญาณเราลงขุมนรก ทางเดียวที่จะกำจัดวิญญาณร้ายพวกนี้ไปได้คือการเดินเข้าไปด้านหลังแล้วสังหาร ซึ่งระหว่างเล่นก็จะมีลูกเล่นเหมือนเป็นกลุ่มก้อนควันให้เราสามารถเข้าไปซ่อนตัวเพื่อหลบหลีกการมองเห็นของศัตรูได้ อีกาที่เราสามารถทำให้มันส่งเสียงร้องเพื่อหันเหความสนใจของศัตรูได้ แต่สิ่งที่ผมบอกมานี้มันดูเหมือนจะช่วยให้เกมนั้นดูดีขึ้นกลับแย่ลงอย่างบอกไม่ถูก ด้วยการที่ศัตรูภายในเกมมีอยู่แบบเดียว รูปแบบการกำจัดศัตรูที่ค่อนข้างตายตัว ที่สำคัญเราสามารถมองทะลุกำแพงและเดินทะลุได้จึงทำให้ระบบการต่อสู้ภายในเกมดูแข็งกระด้างขาดความยืดหยุ่นในการเล่นทันทีและไม่รู้สึกกดดัน สิ่งเดียวที่ทำให้ผมรู้สึกยากคือการย่องเข้าไปด้านหลังศัตรูแล้วใช้จอยคอนโทรลเลอร์ขยับหน้าจอให้ศัตรูอยู่ตรงกลางเพื่อที่จะได้กดสังหารมันได้ เพราะอะไรผมถึงบอกว่ามันยาก? เรื่องก็คือเกมนี้ไม่มีเป้าให้เราน่ะสิ ฟังผมบอกอาจไม่รู้สึกอะไรแต่เล่นเองเมื่อไหร่แล้วจะรู้สึกเลยว่าปัญหานี้ดูน่ารำคานมาก ย่องไปอยู่ดีดีคลำจอยคอนโทรลเลอร์ให้ขึ้นปุ่มสังหารศัตรูไม่เจอ พอมันหันมาก็ชิบหายไปโดยปริยาย สิ่งเหล่านี้กลับเป็นเรื่องที่ทำให้รู้สึกว่าแทนที่เราจะตายเพราะเราวางแผนกะช่วงจังหวะการเดินผิดกลับต้องมาตายเพราะปัญหาเพียงเล็กน้อยของเกมซะอย่างนั้น ถึงแม้เราจะไม่ได้เจอศัตรูบ่อยนักภายในเกมแต่ด้วยระบบการต่อสู้ที่ทำออกมาได้ค่อนข้างแย่จึงทำให้เป็นช่วงเวลาที่ทำให้ผมรู้สึกอยากผ่านจุดนั้นไปให้เร็วๆเสียมากกว่าสนุกไปกับมัน
ไม่ใช่แค่การที่ต้องต่อสู้กับศัตรู ภายในเกมเราจะได้พบกับตัวละครเด็กสาวชื่อว่า Joy ผู้ที่มีความสามารถมองเห็นวิญญาณอย่างเราได้ ซึ่งตัวละครนี้จะมีบทบาทอย่างมากในการดำเนินเรื่อง แต่ก่อนที่ตัว Joy จะให้ความช่วยเหลือเราได้อย่างเช่นการย่องเข้าไปสถานที่ราชการเพื่อขโมยข้อมูลเราจำเป็นต้องช่วยเหลือเธอไม่ว่าจะเป็นการหันเหความสนใจของเหล่า NPC ภายในเกมอย่างเช่นการที่เราสามารถส่งคลื่นอะไรบางอย่างไปยังเครื่องใช้ไฟฟ้าได้แล้วให้เกิดอาการผิดปกติหันเหความสนใจของตัว NPC แล้วให้ Joy ย่องผ่านไปยังจุดต่อไป สิ่งเหล่านี้จะเป็นเหมือนสคริปต์ตายตัวที่ตัวละคร Joy จะรอให้เราทำในสิ่งที่ถูกต้องจากนั้นก็จะเดินต่อไปข้างหน้า แน่นอนว่าตรงนี้จะไร้ตัวเลือกและขาดความท้าทายเพราะยังไงเสีย Joy มันก็ไม่มีวันโดนจับได้ ทั้งหมดนี้จึงทำให้เกิดอารมณ์ ‘เล่นไปงั้นๆ’ เพื่อให้เกมมันเดินไปข้างหน้าได้ก็เท่านั้น ส่วนสาเหตุที่ว่าทำไมเราทำอะไรเองไม่ได้ก็เพราะว่าเราเป็นวิญญาณจึงไม่สามารถหยิบจับสิ่งของในโลกมนุษย์ได้ครับ
สรุปแล้ว Murdered: Soul Suspect เป็นเกมที่ผู้เล่นสามารถเล่นมันได้ไปแบบเนิ้บๆการดำเนินเรื่องเชื่องช้า ขาดความดึงดูดหรือกระตุ้นผู้เล่นให้เกิดความอยากรู้ความจริงระหว่างเล่นเกม จึงไม่สามารถดึงอารมณ์ร่วมขณะเล่นเกมออกมาได้เต็มที่นัก รูปแบบเกมเพลย์ที่ตายตัวง่ายจนเกินไป ปริศนาที่ไม่มีความซับซ้อน ลูกเล่นภารกิจเสริมที่ไม่ได้ทำให้เกมน่าติดตาม เวลาส่วนใหญ่ที่หมดไปกับการเดินหาของมากกว่าการวิเคราะห์ จะบอกว่าการดูการ์ตูนโคนันยังให้ความรู้สึกสนุกและมีอารมณ์ร่วมไปกับคดีมากกว่าการสืบคดีในเกมนี้ด้วยซ้ำไป จึงทำให้ภาระตกไปอยู่ที่เนื้อเรื่องของเกมที่ควรจะเป็นตัวช่วยให้เกมดีขึ้นแต่ดันเป็นสิ่งที่ทำให้ฉุดมาตรฐานของเกมไปอย่างน่าเสียดาย ด้วยสิ่งเหล่านี้แล้วผมจึงจัดให้เกมนี้อยู่ในระดับที่เรียกว่าปานกลางค่อนไปทางแย่ครับ ส่วนคะแนนคงไม่สำคัญนักหากผู้อ่านได้อ่านมาจนถึงบรรทัดนี้คงพอเดาคะแนนในใจกันได้แล้ว แต่ถ้าอยากทราบก็บวกลบคูณหารกันเอาได้เลย
จากภาพด้านล่างนี้คือการที่ผมได้เก็บของในเมืองที่กระจัดกระจายอยู่ภายในเมือง เมื่อเก็บครบก็จะได้ฟังเรื่องราวตำนานเล่าขานอะไรก็ว่าไปและไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเนื้อหาหลักเท่าไรนัก
ระหว่างเล่นจะมีเศษกระดาษชิ้นเล็กชิ้นน้อยตกไปทั่วที่จะเป็นเรื่องราวการบอกเล่าผ่านไดอารี่ของ Julia ภรรยาของ Ronan ที่ทำให้เราได้ทราบถึงนิสัยเบื้องลึกของตัว Ronan ซึ่งระหว่างเล่นเราอาจไม่ได้สังเกตตรงจุดนี้นอกจากท่าทางที่ดูกุ๊ย
จะสังเกตว่าผมไม่ได้พูดถึงกราฟฟิคภายในเกมเพราะเข้าใจว่าเกมนำเสนอเนื้อหาการเล่าเรื่อง การแก้ไขปริศนาเป็นหลัก แต่ถ้าให้หยิบมาพูดก็คงเป็นเรื่องที่ทีมพัฒนาดึกศักยภาพ Unreal Engine 3 ออกมาได้ไม่ดีพอจึงทำให้เราเห็นท่าทางการสนทนาหรือการเคลื่อนไหวที่ดูแข็งทื่อ หากคนที่ใส่ใจในเรื่องอารมณ์ร่วมระหว่างเล่นอาจผิดหวังในจุดนี้เพราะการแสดงสีหน้าของตัวละครและการพากย์เสียงยังทำออกมาได้ไม่ดีนัก
นอกจากจะสิงคนได้แล้วเรายังสามารถเข้าไปสิงเจ้าเหมียวเพื่อไปยังพื้นที่ที่ไม่สามารถเข้าถึงได้ครับ
3 ภาพด้านล่างอาจจะดูว่าผมจุกจิกไปหน่อยแต่การที่ทำให้ผู้เล่นจดจำใบหน้า NPC ที่มีใบหน้าซ้ำๆได้โดยไม่ต้องมานั่งจับผิดหรือสังเกตอะไรมาก หากเปรียบกับเกมสมัยนี้ผมว่าเป็นสิ่งที่ควรปรับปรุงหน่อยนะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น