Yulgang2 สงครามธรรมะอธรรม
Yulgang2 สงครามธรรมะอธรรม
สาส์นเชิญของพรรคจอมภูติ
วันหนึ่งมีสาส์นเชิญของกลุ่มลึกลับที่ชื่อว่าพรรคจอมภูติส่งมาถึงมือเหล่ายอดฝีมือแห่งยุทธภพ เนื้อหาคือมีการจัดงานเลี้ยงน้ำชา ณ หอคอยเหล็กไหลเนื่องในวันปีใหม่ บรรดาสำนักมากมายมีความเคลือบแคลงสงสัยในสาส์นเชิญที่มาจากสำนักที่มีชื่อไม่คุ้นหูว่าพรรคจอมภูติ แต่ทว่าก็ตัดสินใจตอบรับคำเชิญเนื่องจากได้ข่าวว่ามีการเจอต้นฉบับคัมภีร์ลับของแต่ละสำนัก ท้ายที่สุด ฝ่ายอธรรมก็ได้นัมกุงโบ หัวหน้าสมาคมวายุทมิฬที่ 3 และฝ่ายธรรมะได้อีฮวา หนึ่งในหกเทพมังกรเป็นตัวแทนในการรวมตัวที่หอคอยเหล็กไหล แล้วหารือกันเพื่อหาทางเอาฉบับคัมภีร์ลับของสำนักตนเองกลับคืนมาอย่างสันติวิธี
หายนะแห่งหอคอยเหล็กไหล
บรรดาสำนักต่างๆ หารือเพื่อหาวิธีเข้าไปในหอคอย แต่เนื่องจากไม่ไว้วางใจซึ่งกันและกัน ทำให้ตัดสินใจเข้าไปด้วยกันทั้งหมด จนในที่สุดบรรดาสำนักแต่ละสำนักที่มาถึงชั้นสุดท้ายซึ่งซ่อนคัมภีร์ลับเอาไว้ก็ได้เริ่มเก็บคัมภีร์ลับของตน แต่ทว่ากลุ่มโจรซึ่งถือระเบิดยักษ์ก็ปรากฎตัวออกมาอย่างไม่คาดฝันและได้ขู่ให้วางคัมภีร์ลับทั้งหมดเอาไว้ บรรดาชาวยุทธ์ที่รู้ถึงอานุภาพของระเบิดยักษ์เป็นอย่างดีได้ทำตามคำขู่นั้น และกลุ่มโจรก็เริ่มเก็บคัมภีร์ลับทั้งหมด ในขณะที่กลุ่มโจรกำลังเก็บคัมภีร์ลับ จู่ๆ ไฟในหอคอยเหล็กไหลก็ดับหมด และทั้งหมดก็ตกอยู่ในความมืดจนแยกแยะกันไม่ได้ แล้วการต่อสู้ก็เริ่มต้นขึ้นในความมืดพร้อมกับเสียงโห่ร้อง แล้วภายในหอคอยเหล็กไหลก็ได้ตกอยู่ในความโกลาหล หนึ่งในผู้นำทางที่มีชีวิตรอดได้ออกจากหอคอยเหล็กไหลได้ให้การว่า เขาไม่รู้ว่าตัวเองออกมาได้อย่างไร แล้วหลังจากออกมาไม่นานนักก็ได้ยินเสียงระเบิดและหอคอยเหล็กไหลก็ได้ถล่มลงมา แต่สาเหตุของการระเบิดยังเป็นที่สงสัยอยู่ หลังจากนั้นฝ่ายธรรมะและอธรรมก็ได้สังหารโจรได้หมด แต่ว่าความจริงของเหตุการณ์นี้ยังไม่เป็นที่ปรากฎ ทำให้ทั้งสองฝ่ายมีความเคียดแค้นซึ่งกันและกัน จินแพอุนซึ่งสูญเสียภรรยาอีฮวา ได้สูญเสียความเป็นตัวเองไปทีละนิดเนื่องจากความโกรธแค้นที่มีต่อฝ่ายอธรรม
การหายตัวไปของฮันกวางและลูกสาวของเขา
ฮันกวางได้พาลูกสาวซึ่งครบรอบวันเกิดครบ 7 ขวบ ออกไปท่องเที่ยวยังสถานที่ทางศาสนาที่มีทิวทัศน์สวยงาม แต่ว่าฮวารินออกเดินทางไปด้วยไม่ได้เนื่องจากติดการทดสอบเพลงกระบี่ในวันนั้น ฮันกวางและลูกสาวออกเดินทางไปหลายวันแล้วแต่ก็ไม่กลับมาเสียที จนการทดสอบเพลงกระบี่สิ้นสุดลง ฮวารินจึงออกเดินทางไปยังสถานที่ทางศาสนาเพื่อออกตามหาฮันกวางและลูกสาว แต่ว่าก็ไม่เจอของพวกเขาเลย แล้วฮวารินก็เจอร่องรอยการต่อสู้ทำให้ฮวารินวิตกกังวลอย่างมาก แล้วฮวารินก็ไปเจอร่องรอยพายุมืดร่ายรำที่ด้านในสุดของสถานที่ทางศาสนา ฮวารินไปตามหาวังเทพมารฟ้า แต่ก็ไม่พบสมาคมวายุทมิฬที่เคยเคลื่อนไหวอยู่ที่สถานที่ทางศาสนาในตอนนั้น
ความโกรธของฮวาริน
ฮวารินไม่ยอมลดละที่จะตามหาสามีและลูกสาว จนได้เจอร่องรอยของฮันกวางอีกครั้ง และเธอก็ได้เจอเงื่อนงำอย่างหนึ่ง ฮวารินได้ไล่ตามเงื่อนงำนั้นไป จนกระทั่งสถานที่ปรากฎอยู่ตรงหน้าเธอคือประตูนรก แล้วเธอก็ได้หายไป ถึงจะมีคนบอกว่าเห็นตัวเธอไปทางซากปรักหักพัง แต่นั่นก็เป็นเพียงข่าวลือเท่านั้น ไม่ว่าจะไปไหนก็ไม่เจอตัวเธอเลย แล้วหลังจากนั้นเธอก็กลับมายังยุทธภพด้วยท่าทางที่เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง แล้วเธอก็ไปหาชินแพอุน “ฝ่ายอธรรมเอาสามีกับลูกของข้าไปซ่อนไว้ ข้าจะไม่ไว้ชีวิตพวกมันสักคนจนกว่าจะเจอสามีและลูกสาวของข้า” เสียงของเธอสะกิดต่อมความโกรธของชินแพอุนเข้าแล้ว
ศึกชิงจ้าวยุทธภพ
ความโกรธของชินแพอุนที่สูญเสียภรรยาจากหายนะของหอคอยเหล็กไหลได้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แล้วชินแพอุนก็ได้ใช้อิทธิภพในฝ่ายธรรมะของตัวเองจัดตั้ง “ศึกชิงจ้าวยุทธภพ” ขึ้นมา โดยอ้างว่าจัดตั้งขึ้นเพื่อทดแทนตำแหน่งจ้าวยุทธภพที่ว่างมาร่วม 35 ปีอีกครั้ง แต่ว่าความจริงแล้วคือต้องการทำลายล้างอำนาจของฝ่ายอธรรมเพื่อล้างแค้นให้อีฮวา
ชินแพอุน จ้าวยุทธภพ
ศึกชิงจ้าวยุทธภพนั้นได้เริ่มต้นขึ้นโดยมียอดฝีมือของฝ่ายธรรมะเข้าร่วมซะเป็นส่วนใหญ่ การแข่งขันเป็นไปด้วยความดุเดือด แต่ว่าทั้งหมดก็ต้องพ่ายแพ้ให้แค่มือขวาของชินแพอุน ซึ่งมือขวาของชินแพอุนก็คือ “ฮวาริน” นั่นเอง ทั้งหมดต่างยอมศิโรราปต่อกระบี่ของฮวาริน แล้วในที่สุดชินแพอุนก็ได้ขึ้นเป็นจ้าวยุทธภพ ซึ่งได้กล่าวว่าไม่สามารถอยู่ร่วมกับฝ่ายอธรรมได้อีกต่อไป
รองประมุขพรรค กระบี่ไร้ใจ ฮวาริน
ฮวารินทำให้ชินแพอุนขึ้นเป็นจ้าวยุทธภพได้ ถูกเชิญให้เป็นรองประมุขพรรค ทำหน้าที่ระดมกำลังฝ่ายธรรมะขึ้นมาอีกครั้ง เธอไปยังสำนักฝ่ายธรรมะต่างๆ เพื่อรับคำมั่นสัญญาว่าจะจงรักภักดีต่อประมุข เรื่องนี้เป็นเรื่องที่บังคับจิตใจกันอย่างมาก ทำให้ฮวารินได้รับสมญานามว่า “กระบี่ไร้ใจ” แต่มันก็ได้ผลทำให้ฝ่ายธรรมะมีอำนาจกว่าแต่ก่อน
สงครามธรรมะอธรรม
ฝ่ายธรรมะต้องการหาความรับผิดชอบเกี่ยวกับหายนะของหอคอยเหล็กไหล ได้ตะโกนว่า "ไม่ต้องเกรงใจฝ่ายอธรรมอีกต่อไป" แล้วก็เข้าโจมตีพื้นที่วังเทพมารฟ้าโดยมีฮวารินเป็นผู้นำ สำนักทั้ง 4 ของฝ่ายอธรรมถูกทำลายล้างในชั่วพริบตา และสมาคมวายุทมิฬที่ 4 ก็ได้ล้มสลาย สถานที่เหลือตอนนี้มีเพียงวังเทพมารฟ้าเท่านั้น ฝ่ายธรรมะได้เริ่มเคลื่อนทัพไปยังวังเทพมารฟ้าซึ่งเป็นเป้าหมายสุดท้าย แต่ฝ่ายธรรมะก็ตกอยู่ในความโกลาหลอันเนื่องมาจากการโจมตีของ "พรรคเก่งเชิงยุทธ์" ที่ปรากฎตัวที่ด้านล่างฝ่ายธรรมะอย่างไม่คาดคิด จนกระทั่งมีคนบาดเจ็บล้มตายเป็นจำนวนมากทำให้ฝ่ายธรรมะต้องล่าถอยไปยังฝ่ายของตัวเองอย่างช่วยไม่ได้
การปรากฎตัวของมารพิษแห่งพรรคเก่งเชิงยุทธ์
แต่เดิมพรรคเก่งเชิงยุทธ์เป็นสำนักเล็กๆ ของฝ่ายอธรรม แต่ก็ไม่นึกว่าจะแสดงพลังได้ยิ่งใหญ่ขนาดนี้ ถ้าจะให้พูดจริงๆ ก็คือพลังของพรรคเก่งเชิงยุทธ์คือพลังของมารพิษ จ้าวสำนักรุ่นที่ 3 นั่นเอง วิทยายุทธ์ของเขามีรูปแบบใหม่ที่ไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน ในสงครามธรรมะอธรรม ฝ่ายธรรมะที่ได้รับบาดเจ็บอย่างหนักจากการต่อสู้กับพรรคเก่งเชิงยุทธ์ได้รับความเสียหายมากขึ้นเรื่อยๆ จนไม่สามารถบุกเข้าไปยังวังเทพมารฟ้าได้อีกต่อไป จากสงครามธรรมะอธรรมทำให้พรรคเก่งเชิงยุทธ์ก็ได้เป็นสำนักหลักที่มีชื่อเสียงขจรขจายไปทั่วยุทธภพ
การปรากฎตัวของศิษย์ลำดับที่ 7 ของหัวหน้าวังเทพมารฟ้า
จากวิกฤตการณ์สงครามธรรมะอธรรม ทำให้ฝ่ายอธรรมจำเป็นต้องมีผู้นำที่แข็งแกร่งเพื่อรวบรวมกำลัง ดังเช่นวังเทพมารฟ้าในอดีต มีคนในฝ่ายอธรรมมากมายที่ได้ยินข่าวเข้าร่วมการแข่งขัน แต่ว่าผู้ที่ยังเหลือรอดในการแข่งขันก็คือจินพุงและซังฮี แต่ในระหว่างที่จินพุงขึ้นเป็นหัวหน้าแห่งวังเทพมารฟ้ารุ่นที่ 2 จากการยอมแพ้ของซังฮีอันเนื่องจากความเป็นศิษย์อาจารย์กัน จู่ๆ ก็มีชายหนุ่มผู้หนึ่งขึ้นมายังสนามแข่งขัน วิทยายุทธ์ของชายหนุ่มผู้นั้นเป็นของวังเทพมารฟ้าเช่นเดียวกับจินพุง ยิ่งไปกว่านั้นก็ยังเอาชนะจินพุงได้ภายใน 3 กระบวนท่าเท่านั้น หลังจากรู้ผลแพ้ชนะ ชายหนุ่มผู้นั้นก็เรียกจินพุงว่าศิษย์พี่ และแนะนำตัวเองว่าชื่อชอนรัก เป็นศิษย์ลำดับที่ 7 ของหัวหน้าวังเทพมารฟ้า
การรวมกำลังของฝ่ายอธรรม
การปรากฎตัวของศิษย์ลำดับที่ 7 ของหัวหน้าวังเทพมารฟ้าอย่างกระทันหันเป็นที่สงสัยภายในฝ่ายอธรรมอย่างมาก แต่ว่าเพราะความแข็งแกร่งของเขาทำให้ฝ่ายอธรรมก่อตั้งขึ้นมาใหม่ด้วยระยะเวลาอันรวดเร็ว ถึงแม้ว่าตอนนี้สมาชิกของฝ่ายอธรรมยังมีไม่พอเมื่อเทียบกับฝ่ายธรรมะ แต่ก็ไม่ได้อ่อนแอแต่อย่างใด ยิ่งไปกว่านั้นชีฮยอนแห่งสมาคมวายุทมิฬก็เป็นที่ปรึกษาให้แก่หัวหน้าวังเทพมารฟ้ารุ่นที่ 2 ด้วย ทำให้อำนาจภายในฝ่ายอธรรมแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ
การขยายตัวของพรรคมารและความขัดแย้งของทั้งสองฝ่าย
หลังจากหายนะแห่งหอคอยเหล็กไหล กำลังของฝ่ายธรรมะอธรรมก็หายไปจำนวนมากอันเนื่องมาจากสงครามธรรมะอธรรม ทำให้ทั่งสองฝ่ายต่างจับจ้องกันอย่างเงียบๆ พวกพรรคมารฉวยโอกาสตอนที่ฝ่ายธรรมะอธรรมมีกำลังอ่อนแอขยายจำนวนผู้ศรัทธาออกไป ทั้งสองฝ่ายที่ไม่มีกำลังได้แต่เฝ้าสังเกตการณ์อย่างช่วยไม่ได้ แล้วยุทธภพก็ค่อยๆ เข้าสู่ความโกลาหล
